ฝากส่งไปรณีย์ในประเทศแบบไหนดี พัสดุธรรมดา, ลงทะเบียน, EMS

ลิงค์แชร์หน้านี้: https://thaiherb.online/blog/10-the-best-way-to-delivery-thailand-post.html


เพื่อนๆที่ส่งของทางไปรษณีย์ คงทราบดีว่า เขามีส่งหลายๆ รูปแบบ วันนี้ ไทยเฮิร์บ ออนไลน์ เลยรวบรวมความรู้ วิธีการส่งต่างๆ ที่เป็นที่นิยมในการสั่งส่งพัสดุมาฝากกันครับ 

การส่งพัสดุแบบ EMS 
การส่งแบบนี้ รหัสจะขึ้นต้นด้วยตัว E เช่น EA/EG/EH/EJ/EK ซึ่งก็ย่อมากจากคำว่า EMS นั่งเอง ซึ่งการจัดส่งแบบนี้จะปลอดภัยและได้ของเร็วที่สุด แต่ข้อเสียของมันก็คือ แพง โดยการส่งแบบ EMS นี้ จะมีรหัสพัสดุ (TAG) ที่สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุทางอินเตอร์เน็ตได้ โดยข้อดีของมันจะอัพเดทลำดับการส่งอย่างละเอียดว่าของถึงไหนแล้ว และยังจัดส่งของในวันอาทิตย์ด้วย ถ้าลูกค้ามีความต้องการสินค้าอย่างรวดเร็วให้เลือกส่งแบบ Ems จะมีการจัดส่งที่เร็วกว่ามาก และมีกำหนดถึงที่แน่นอนกว่า

การส่งแบบ Ems นี้ จะจำกัดน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม หากของสูญหายจะได้ค่าประกันพัสดุในวงเงิน 2,000 บาท และสำหรับระยะเวลาในการจัดส่งคร่าวๆ ก็ได้แก่

  • พื้นที่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จะได้รับของในวันถัดไป ไม่เกิน 12.00 น. หรือ 16.30 น. (แล้วแต่ระยะทาง)
  • พื้นที่ปลายทางในเขตภาคเดียวกัน จะได้รับของในวันถัดไป ประมาณ 1-2 วันทำการ
  • พื้นที่ปลายทางที่อยู่ในภาคอื่น จะได้รับของภายใน 2-3 วันทำการ

การส่งพัสดุแบบลงทะเบียน

การส่งแบบนี้รหัสพัสดุจะขึ้นต้นด้วยตัว R นำหน้า เช่น RA/RB/RC/RD/RF/RG เรียกว่า รวมสารพัด R โดยการส่งแบบลงทะเบียนจะเป็นแบบที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากราคากำลังพอเหมาะ ไม่แพงจนเกินไป และยังมีรหัสพัสดุที่สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุทางอินเตอร์เน็ตได้เช่นเดียวกับ EMS แต่จะแตกต่างตรงที่ข้อมูลจะโชว์แค่ว่ารับเข้าระบบแล้ว จากนั้นก็จะขึ้นอีกทีคือแจ้งให้ทราบว่าไปถึงปลายทางแล้ว ไม่สามารถตรวจสอบสถานะกลางทางได้

การส่งแบบลงทะเบียนนี้ จะจำกัดน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม หากของสูญหายจะได้รับค่าประกันพัสดุในวงเงิน 300 บาท และสำหรับระยะเวลาในการจัดส่งคร่าวๆ ได้แก่

  • พื้นที่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จะได้รับของประมาณ 3-4 วันทำการ
  • พื้นที่ปลายทางในเขตภาคเดียวกัน จะได้รับของประมาณ 4-5 วันทำการ
  • พื้นที่ปลายทางที่อยู่ในภาคอื่น หากไม่ไกลมากก็จะใช้เวลาประมาณ 5-6 วันทำการ แต่หากอยู่พื่นที่ไกลมากหรือพี่นที่นำจ่ายไปรษณีย์จ้างให้เอกชนส่งแทน จะทำให้กำหนดเวลารับของไม่แน่นอน คือถ้าพัสดุน้อยอาจจะต้องรอรวมส่งจะใช้เวลานานกว่าปกติ


พัสดุธรรมดา (ลงทะเบียนในตัว) 

การส่งแบบนี้ รหัสพัสดุจะขึ้นต้นด้วยตัว P นำหน้า เช่น PA/PB/PC/PD โดยการส่งของแบบนี้ จะลงทะเบียนในตัว แต่ไม่สามารถตรวจสอบสถานะพัสดุทางอินเตอร์เน็ตได้ แต่สามารถตรวจสอบได้ที่สำนักงานไปรษณีย์ต้นทางและปลายทางเท่านั้น เหมาะสำหรับการส่งของที่มีน้ำหนักค่อนข้างสูง (ปกติหากสินค้าน้ำหนักเกิน 2 กิโลกรัม พนักงานไปรษณีย์มักจะปรับเป็นการส่งแบบพัสดุธรรมดาโดยอัตโนมัติ)

การส่งแบบธรรมดานี้ จะจำกัดน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม หากของสูญหายจะได้รับค่าประกันพัสดุในวงเงิน 1,000 บาท สำหรับระยะเวลาในการจัดส่งคร่าวๆ จะใกล้เคียงกับพัสดุลงทะเบียน ได้แก่

  • พื้นที่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จะได้รับของประมาณ 4-5 วันทำการ
  • พื้นที่ปลายทางในเขตภาคเดียวกัน จะได้รับของประมาณ 5-6 วันทำการ
  • พื้นที่ปลายทางที่อยู่ในภาคอื่น หากไม่ไกลมากก็จะใช้เวลาประมาณ 6-7 วันทำการ แต่หากอยู่พื่นที่ไกลมากหรือพี่นที่นำจ่ายไปรษณีย์จ้างให้เอกชนส่งแทน จะทำให้กำหนดเวลารับของไม่แน่นอน คือถ้าพัสดุน้อยอาจจะต้องรอรวมส่งจะใช้เวลานานกว่าปกติ

การเช็คสถานะการจัดส่งโดยไปรษณีย์ไทย
เพื่อนๆ สามารถเข้าไปเช็ค ติดตามสถานะสิ่งของได้ที่ลิงค์นี้นะครับ https://track.thailandpost.co.th/ สามารถเช็คได้พร้อมๆ กันหากมีหลายหมายเลขนะครับ โดยใส่ , (Comma) คั่นหมายเลขสิ่งของ กรณีติดตามมากกว่า 1 รายการ  (ตัวอย่าง : EF582621151TH, EA666458151TH, RG453678925TH) สามารถใส่ได้สูงสุด 10 รายการต่อครั้ง

บริการที่รองรับการตรวจสอบสถานะ 

  •  EMS ไปรษณีย์ด่วนพิเศษในประเทศ
  • ไปรษณีย์ลงทะเบียนในประเทศ
  • eCo-Post ส่งประหยัดในประเทศ
  • Logispost ในประเทศ
  • EMS World ไปรษณีย์ด่วนพิเศษระหว่างประเทศ
  • Courier Post ระหว่างประเทศ
  • ไปรษณีย์ลงทะเบียนระหว่างประเทศ
  • พัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ
  • Logispost ระหว่างประเทศ
  • ไปรษณีย์รับประกันระหว่างประเทศ
  • E-packet ระหว่างประเทศ

หมายเหตุ

  • ถ้าสินค้ามีมูลค่ามากกว่า 300 บาทแนะนำให้เลือกช่องทางจัดส่งโดย Ems เพราะมีประกันมูลค่าสินค้าสูญหายสูงกว่าแบบอื่น และไปรษณีย์จะให้ความสำคัญกับความแม่นยำทาง Ems มากกว่า เพราะตรวจสอบสถานะได้ทุกจุด
  • ปัจจุบันการจัดส่งทุกประเภทอาจมีความล่าช้าบ้าง ซึ่งเกิดจากการเติบโตของการซื้อขายออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะมีการจัดส่งพัสดุกันเป็นจำนวนครั้งละมากๆ แต่จำนวนเจ้าหน้าไปรษณีย์มีจำนวนเท่าเดิม ซึ่งอาจทำให้เกิดการจัดส่งล่าช้าโดยไปรษณีย์บ้าง หรือเป็นคนละภาคคนละเขตกันระหว่างคนส่งสินค้ากับคนรับสินค้า หรือบางพื้นที่เป็นพื้นที่ห่างไกล หรือบางพื้นที่ไปรษณีย์จ้างเอกชนเป็นคนนำจ่ายแทน ก็จะทำให้การจัดส่งล่าช้าได้ เนื่องจากจะรอพัสดุและจดหมายเป็นจำนวนมากถึงไปจัดส่งที เพราะจะอ้างว่าไม่คุ้มค่าเสียเวลาและค่าน้ำมัน จะทำให้ล่าช้าได้เหมือนกัน ถ้าลูกค้ามีความต้องการสินค้าอย่างรวดเร็วให้เลือกส่งแบบ Ems จะมีการจัดส่งที่เร็วกว่ามาก และมีกำหนดถึงที่แน่นอน
ขอขอบคุณ it2like.com